ประโยคในภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นประโยคที่ซับซ้อน
สั้นยาวเพียงใด ก็ล้วนมาจากประโยคพื้นฐานทั้งนั้น
และการที่เราจะแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้นั้น
เราต้องรู้จักพื้นฐานของโครงสร้างประโยคกันก่อน ดังนั้นการที่เราจะแต่งประโยคได้นั้นเราจะต้องรู้ว่ารูปแบบของประโยคมีกี่แบบ
มีแบบใดบ้าง เพื่อที่เราจะได้เขียนออกมาถูกต้องตามโครงสร้าง
เพราะเมื่อเรารู้จักโครงสร้างพื้นฐานของประโยคแล้ว
จะทำให้เราสามารถแต่งประโยคได้อย่างง่าย อีกทั้งการแต่งประโยคนั้นถ้าเราแต่งผิด
จะทำให้ความหมายในประโยคนั้นผิดเพี้ยนไป หรืออาจจะไม่มีความหมายเลยก็ได้
เพราะฉะนั้นเรามารู้จักโครงสร้างพื้นฐานของประโยคกันก่อนที่จะประโยค
เพื่อความถูกต้องของรูปแบบและความหมาย
โครงสร้างพื้นฐานของประโยค
เรียกว่า basic sentence คือ
ประโยคที่ประกอบด้วยตัวหลักๆ มีคำน้อย ใช้เฉพาะคำที่จำเป็นในแต่ละแบบ
แต่มีใจความสมบูรณ์ ถูกต้องตามหลักภาษา สื่อความหมายได้อย่างตรงไปตรงมา
แต่อาจจะขาดความไพเราะ ไม่สละสลวย ไม่ได้อรรถรส หรือรายละเอียดตรงตามความตั้งใจของผู้แต่งประโยคไปบ้าง
แต่เมื่อเรานำคำ วลี หรือข้อความที่เหมาะสมประกอบกันในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว
ก็จะทำให้เกิดความสละสลวยมากยิ่งขึ้น
หรือทำให้เกิดความซับซ้อนตามประสงค์ของผู้แต่ง
และจากที่ดิฉันได้ศึกษามานั้นเป็นการแยกประโยคขั้นพื้นฐานของฮอร์นบีและคณะ
ซึ่งได้แยกประโยคพื้นฐานไว้ใน The Advanced
Learner’s Dictionary of Current English ไว้ 25 แบบ โดยถือตามหน้าที่และความนิยมในการใช้คำกริยาเป็นหลัก ดังนี้
แบบที่ 1 คือ S + V + DO ex. We have
already had lunch.
แบบที่ 2 คือ S + V + (not) to +
Infinitive ex. He wants to play.
แบบที่ 3 คือ S + V + Noun or Pronoun + (not) to
+ Infinitive ex.
I like mother to dress well.
แบบที่ 4 คือ S + V + Noun or Pronoun + (to be) +
C ex. I believed her (to
be) innocent.
แบบที่ 5 คือ S + V + Noun or Pronoun + Infinitive ex. He will have them do the work.
แบบที่ 6 คือ S + V + Noun or Pronoun + Present Participle ex. I saw him working at cafe.
แบบที่ 7 คือ O + V + O + Adj. ex. They painted the room pink.
แบบที่ 8 คือ S + V + O + N
ex. I call the doll “Yuyee”.
แบบที่ 9 คือ S + V + O + Past Participle ex. You had a
new bag made.
แบบที่ 10 คือ S + V + O + V, Adv. ph. ex.
I don’t know her to speak to.
แบบที่ 11 คือ S + V + (that) + Clause ex. I hope (that) you will come.
แบบที่ 12 คือ S + V + Noun or Pronoun + (that) + Clause ex. You told the boy (that) he was
mistaken.
แบบที่ 13 คือ S + V + Conj. + to +
Infinitive ex. I wonder how to
make it.
แบบที่ 14 คือ S + V + Noun or Pronoun + Conjunctive + to + Infinitive ex. I showed them
how to make it.
แบบที่ 15 คือ S + V + Conjunctive + Clause ex. I don’t mind when he comes.
แบบที่ 16 คือ S + V + Noun or Pronoun + Conjunctive + Clause ex. Tell
me where he goes.
แบบที่ 17 คือ S + V + Gerund ex. Please
stop writing.
แบบที่ 18 คือ S + V + DO + Prep. + Prepositional
Object ex. I gave the money to my
mother.
แบบที่ 19 คือ S + V +IO + DO
ex. Has she gave you the money?
แบบที่ 20 คือ S + V + (for) + C ex. We walk (for) two kilometers.
แบบที่
21 คือ S + V ex. Tigers run.
แบบที่ 22 คือ S + V + Predicative ex. That
is a car.
แบบที่ 23 คือ S + V + Adverbial Adjunct ex.
Sit down!
แบบที่ 24 คือ S + V + Prep. + Prepositional Object ex. It depends on the time.
แบบที่ 25 คือ S + V + DO ex. We have
already had lunch.
จากที่ดิฉันได้ศึกษา
ความรู้ที่ได้รับคือ การแปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งนั้น ถ้าผู้แปลมีความรู้ทางโครงสร้างพื้นฐานของประโยคจะทำให้สามารถวิเคราะห์ประโยคได้ง่ายขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น