วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Learning Log โครงสร้างพื้นฐานของประโยค


                ประโยคในภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นประโยคที่ซับซ้อน สั้นยาวเพียงใด ก็ล้วนมาจากประโยคพื้นฐานทั้งนั้น และการที่เราจะแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้นั้น เราต้องรู้จักพื้นฐานของโครงสร้างประโยคกันก่อน ดังนั้นการที่เราจะแต่งประโยคได้นั้นเราจะต้องรู้ว่ารูปแบบของประโยคมีกี่แบบ มีแบบใดบ้าง เพื่อที่เราจะได้เขียนออกมาถูกต้องตามโครงสร้าง เพราะเมื่อเรารู้จักโครงสร้างพื้นฐานของประโยคแล้ว จะทำให้เราสามารถแต่งประโยคได้อย่างง่าย อีกทั้งการแต่งประโยคนั้นถ้าเราแต่งผิด จะทำให้ความหมายในประโยคนั้นผิดเพี้ยนไป หรืออาจจะไม่มีความหมายเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นเรามารู้จักโครงสร้างพื้นฐานของประโยคกันก่อนที่จะประโยค เพื่อความถูกต้องของรูปแบบและความหมาย
                โครงสร้างพื้นฐานของประโยค เรียกว่า basic sentence คือ ประโยคที่ประกอบด้วยตัวหลักๆ มีคำน้อย ใช้เฉพาะคำที่จำเป็นในแต่ละแบบ แต่มีใจความสมบูรณ์ ถูกต้องตามหลักภาษา สื่อความหมายได้อย่างตรงไปตรงมา แต่อาจจะขาดความไพเราะ ไม่สละสลวย ไม่ได้อรรถรส หรือรายละเอียดตรงตามความตั้งใจของผู้แต่งประโยคไปบ้าง แต่เมื่อเรานำคำ วลี หรือข้อความที่เหมาะสมประกอบกันในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ก็จะทำให้เกิดความสละสลวยมากยิ่งขึ้น หรือทำให้เกิดความซับซ้อนตามประสงค์ของผู้แต่ง
                และจากที่ดิฉันได้ศึกษามานั้นเป็นการแยกประโยคขั้นพื้นฐานของฮอร์นบีและคณะ ซึ่งได้แยกประโยคพื้นฐานไว้ใน The Advanced Learner’s Dictionary of Current English ไว้ 25 แบบ โดยถือตามหน้าที่และความนิยมในการใช้คำกริยาเป็นหลัก ดังนี้
แบบที่ 1 คือ S + V + DO  ex. We have already had lunch.
แบบที่ 2 คือ S + V (not) to + Infinitive  ex. He wants to play.
แบบที่ 3 คือ S + V + Noun or Pronoun + (not) to + Infinitive  ex. I like mother to dress well.
แบบที่ 4 คือ S + V + Noun or Pronoun + (to be) + ex. I believed her (to be) innocent.
แบบที่ 5 คือ S + V + Noun or Pronoun + Infinitive  ex. He will have them do the work.
แบบที่ 6 คือ S + V + Noun or Pronoun + Present Participle  ex. I saw him working at cafe.
แบบที่ 7 คือ O + V + O + Adj.  ex. They painted the room pink.
แบบที่ 8 คือ S + V + O + ex. I call the doll “Yuyee”.
แบบที่ 9 คือ S + V + O + Past Participle ex. You had a new bag made.
แบบที่ 10 คือ S + V + O + V, Adv. ph.  ex. I don’t know her to speak to.
แบบที่ 11 คือ S + V + (that) + Clause  ex. I hope (that) you will come.
แบบที่ 12 คือ S + V + Noun or Pronoun + (that) + Clause  ex. You told the boy (that) he was mistaken.
แบบที่ 13 คือ S + V + Conj. + to + Infinitive  ex. I wonder how to make it.
แบบที่ 14 คือ S + V + Noun or Pronoun + Conjunctive + to + Infinitive ex. I showed them how to make it.
แบบที่ 15 คือ S + V + Conjunctive + Clause  ex. I don’t mind when he comes.
แบบที่ 16 คือ S + V + Noun or Pronoun + Conjunctive + Clause  ex. Tell me where he goes.
แบบที่ 17 คือ S + V + Gerund  ex. Please stop writing.
แบบที่ 18 คือ S + V + DO + Prep. + Prepositional Object  ex. I gave the money to my mother.
แบบที่ 19 คือ S + V +IO + DO  ex. Has she gave you the money?
แบบที่ 20 คือ S + V + (for) + C   ex. We walk (for) two kilometers.
แบบที่ 21 คือ S + V   ex. Tigers run.
แบบที่ 22 คือ S + V + Predicative  ex. That is a car.
แบบที่ 23 คือ S + V + Adverbial Adjunct  ex. Sit down!
แบบที่ 24 คือ S + V + Prep. + Prepositional Object  ex. It depends on the time.
แบบที่ 25 คือ S + V + DO  ex. We have already had lunch.
                จากที่ดิฉันได้ศึกษา ความรู้ที่ได้รับคือ การแปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งนั้น ถ้าผู้แปลมีความรู้ทางโครงสร้างพื้นฐานของประโยคจะทำให้สามารถวิเคราะห์ประโยคได้ง่ายขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น