ในปัจจุบันนี้เรากำลังจะเข้าสู่ยุคของอาเซียน
ซึ่งเราจะมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆในประชาคมอาเซียน
ดังนั้นในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนคือจากชื่อภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งเป็นการเขียนนามศัพท์ เช่น ชื่อบุคคล ชื่อภูมิศาสตร์
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นคือการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียง
ในการถอดอักษรไทยเป็นโรมันแบบถ่ายเสียงนั้น
คือการถ่ายถอดจากอักษรไทยเป็นโรมันโดยการถ่ายเสียง
โดยทำให้ภาษาไทยที่เขียนด้วยตัวอักษรโรมันนั้นมีเสียงที่ใกล้เคียงกัน
และจะไม่คำนึงถึงการสะกดการันต์และวรรณยึกต์ในภาษาไทย
โดยจะมีการเทียบเสียงพยัญชนะและสระ เช่น “ก” คือ “k” เช่นคำว่า “kok” และสระ “เอา” เช่นคำว่า “bao”
ในการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียงนั้นเราจะดูตั้งแต่ความหมายของคำ
โดยเริ่มจากหน่วยคำ ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดและมีความหมาย
อาจมีพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้ เช่น นา ที นาที ต่อมาก็จะเป็นคำ คือหน่วยคำ
1 หน่วยคำ หรือมากกว่านั้น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ และจะเป็นประเภทของคำต่างๆ
ได้แก่ คำประสม คำสามานยนาม คำวิสามานยนาม
คำนำหน้านาม คำทับศัพท์
ต่อมาก็จะเป็นการใช้เครื่องหมาย “-” เพื่อแยกพยางค์
จะใช้ในกรณีที่มีหลายพยางค์ โดยที่อักษรตัวสุดท้ายของพยางค์หน้าเป็นสระ
และอักษรตัวแรกของพยางค์ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ng หรืออักษรตัวสุดท้ายของพยางค์หน้าเป็น
ng และอักษรตัวแรกของพยางค์ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยสระ
หรืออักษรตัวแรกของพยางค์ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยสระ
ถัดมาก็คือการแยกคำ
โดยในการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมันนั้นเราจะเขียนแยกเป็นคำๆ เช่น
ห้างฟ้าไทย = Hang Fah Thai แต่เราจะยกเว้นคำประสมเพราะถือว่าเป็นคำเดียวกัน
และวิสามานยนามที่เป็นชื่อบุคคล เราจะเขียนติดกัน เช่น รถไฟ = rotfai หรือ ศศิธร = Sasitorn
หลังจากกนั้นก็คือการใช้อักษรโรมันตัวใหญ่
เราจะใช้ในกรณีที่อักษรตัวแรกของวิสามานยนาม
และคำนำหน้านามที่อยู่หน้าคำวิสามานยนามนั้นๆ จะใช้อักษรโรมันตัวใหญ่ เช่น
จังหวัดแพร่ = Changwat Phrae และอีกกรณีคือ
อักษรตัวแรกของคำแรกในแต่ละย่อหน้าให้ใช้อักษรโรมันตัวใหญ่
ในอีกกรณีคือการถอดชื่อทางภูมิศาสตร์
โดดยเราจะถอดคำสามานยนามที่เป็นชื่อภูมิศาสตร์เป็นอักษรโรมันโดยที่ไม่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ
เช่น น้ำตกสอยดาว = Namtok Soi Dao ไม่ใช่ Soi Dao Waterfall และการถอดคำทับศัพท์ โดยในการถอดคำทับศัพท์จะถอดในกรณีที่เป็นวิสามานยนาม
จะเขียนตามภาษาเดิม
และคำศัพท์ที่เป็นส่วนหนึ่งของวิสามานยนามและไม่ต้องการที่จะแปล
จะเขียนคำทับศัพท์นั้นเป็นอักษรโรมันตามการออกเสียงในภาษาไทย
ต่อมาก็จะเป็นการถอดเสียงเครื่องหมายต่างๆ
โดยจะมีเครื่องหมายไม้ยมก (ๆ) ให้ถอดซ้ำคำ วลี หรือประโยคอีกครั้งตามหลักการอ่าน
เครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) ซึ้งย่อความของคำที่รู้จักกันดีแล้ว
หรือคำที่เป็นแบบแผนซึ่งต้องอ่านเต็ม ให้ถอดเป็นอักษรโรมันเต็มตามคำอ่าน
หรือหากมีคำเต็มซึ่งใช้ในข้อความก่อนหน้านั้นแล้ว จะถอดเต็มตามคำอ่านหรือไม่ก็ได้
และเครื่องหมาย (ฯลฯ) ให้ถอดเป็นอักษรโรมันตามเสียงอ่านคือ ละถึง = la thueng
ถัดมาก็คือการถอดคำย่อ
โดยจะถอดคำย่อที่มาจากคำเต็มที่รู้จักกันดีและเป็นคำที่ไม่ยาว
ให้อ่านเต็มตามหลักการอ่าน และถอดอักษรโรมันเต็มตามคำอ่าน
และคำย่อที่มาจากคำประสมหลายคำและค่อนข้างยาว จะถอดตามคำอ่านของตัวย่อ
หรือถอดเต็มก็ได้
สุดท้ายก็จะเป็นการถอดตัวเลข
ให้ถอดตามหลักการอ่านอักขรวิถีไทย โดยเขียนอักษรโรมันเต็มตามเสียงที่อ่านในภาษาไทย
จากที่ดิฉันได้ศึกษา
ความรู้ที่ได้รับคือ หลักเกณฑ์ในการถอดอักษรไทยเป็นอักษรโรมัน
ซึ่งเราจะต้องศึกษาจากหน่วยที่เล็กที่สุดของคำนั้นๆ
และองค์ประกอบต่างๆอีกมากมายที่เราจะต้องศึกษาให้ดีก่อนเดื่อความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น